กระบวนการผลิต ชาเขียวมัทฉะ


ชาเขียวได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องดื่มเพื่อ สุขภาพมานานนับพันปีโดยภูมิปัญญาของชาวจีนและญี่ปุ่น

การผลิตชาเขียว matcha ก็มีวิธีการที่แตกต่างไปจากการผลิตชาเขียวอื่นๆ เช่นกัน ... เริ่มต้นที่ทุ่งชาสีเขียวที่มีอายุพร้อมที่จะเก็บเกี่ยว การจะได้มาซึ่งชาที่มีกลิ่นและสีแบบนี้ ก่อนเก็บเกี่ยวต้องมีวัสดุมาคลุมป้องกันไม่ให้ชาได้รับแสงแดดโดยตรง (เพื่อให้มีสีที่สวย,กลิ่นที่หอม,รสชาติที่ดีขึ้น) เป็นเวลาหลายอาทิตย์ ... ขั้นตอนนี้แหล่ะที่ทำให้ชาโตช้าลง ใบชาจะมีสีเขียวเข้มขึ้นกว่าเดิม และตอนนี้เองที่ชามีการสร้าง amino acids ขึ้น และจะส่งผลให้ชามีรสชาติหวานขึ้นด้วย (ปริมาณ amino acid ที่ชื่อว่า theanine ที่มีรสหวานเพิ่ม ขณะที่ส่วน catechin ที่มีรสขมจะลดลง) ชาในขั้นตอนนี้จะมีชื่อว่า tencha และเมื่อ tencha ถูกนำไปโม่ (บดละเอียด) ด้วยครกหิน ออกมากลายเป็นผงละเอียดยิบก็จะเรียกว่า matcha ... ซึ่งกว่าจะได้ matcha ปริมาณ 1 ounce ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลยทีเดียวเพราะว่า หากทำเร็วเกินไปจะทำให้รสชาติชาเสียได้  ... และนี่คือเหตุผลว่าทำไม matcha ถึงได้ราคาแพง

อีกอย่างนึงคือ มีชาเขียวแบบผงหลายชนิด หากไม่ได้ทำมาจากชาที่เรียกว่า tencha ก็จะไม่เรียกว่า matcha แต่จะเรียกว่า konacha

matcha ไม่เพียงแต่มีรสชาติและกลิ่นที่ติดใจหลายๆ คน แต่ matcha ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วยเหมือนกับชาเขียวอื่นๆ คือ มี L-theanine ซึ่งส่งผลให้สมองผ่อนคลาย และเมื่อสมองผ่อนคลาย ความกังวลหายไป ก็จะทำให้เกิดสมาธิขึ้นมา และสดชื่นขึ้นมาได้ ... ซึ่งเป็นความแตกต่างของกาแฟกับชาที่มีคาเฟอีนเหมือนกัน (คือ กาแฟทำให้ตื่น แต่ไม่ผ่อนคลาย แต่ชาทำให้ตื่น รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย) ... ความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งของ matcha กับ ชาเขียวชนิดอื่นๆ ก็คือ เราได้กินทุกๆ ส่วนของชา (ไม่เพียงแต่น้ำชา) ซึ่งจะทำให้เราได้รับประโยชน์ของชาอย่างเต็มที่มากกว่า ... ไม่ว่าจะเป็น vitamin A, B, C, E, K, Niacin, folate, riboflavin, thiamin และก็รวมไปถึงพวกแร่ธาตุต่าง และพวก amino acids ... และเป็นที่รู้ๆ กันดีว่า ชาเขียวเป็น antioxidant ชั้นเลิศทีเดียว

My Instagram

Copyright © Ujizen Matcha.