กว่าจะมาเป็นมัทฉะ


มัทฉะ มีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Camellia sinensis เพียงแต่ ว่า มัทฉะเป็นผงบดละเอียดของชาเขียวชนิดที่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ คือ อยู่ในที่ร่มได้รับการเก็บเกี่ยวและทำให้แห้งอย่างดีทำให้มีรสชาติหวานหอมอร่อยพิเศษสุด ชาที่จะใช้นำมาทำมัทฉะนั้น จะได้รับการดูแลอย่างดีเพื่อที่จะได้รสและกลิ่นที่ดีที่สุด
            การผลิตชาเขียวมัทฉะ ก็มีวิธีการที่แตกต่างไปจากการผลิตชาเขียวอื่นๆ เช่นกัน ... เริ่มต้นที่ทุ่งชาสีเขียวที่มีอายุพร้อมที่จะเก็บเกี่ยว การที่ได้มาซึ่งชาที่มีกลิ่นและสีแบบนี้ ก่อนเก็บเกี่ยวต้องคลุมป้องกันไม่ให้ชาได้รับแสงแดดโดยตรง (เพื่อให้มีกลิ่นที่หอมและสีที่สวยเป็นเอกลักษณ์) เป็นเวลาหลายอาทิตย์ ... ขั้นตอนนี้จะทำให้ชาโตช้าลง ใบชาจะมีสีเขียวเข้มขึ้นกว่าเดิม และตอนนี้เองที่ชามีการสร้าง amino acids ขึ้น และจะส่งผลให้ให้ชามีรสชาติหวานขึ้นด้วยชาในขั้นตอนนี้จะเรียกว่า tencha เมื่อได้เท็นฉะ (tencha) แล้ว ก็จะนำไปโม่ (บดละเอียด)ด้วยครกหิน ออกมากลายเป็นผงละเอียดยิบที่เรียกว่า มัทฉะ ที่มีสีเขียวขุ่นเหมือนหยก ดังนั้น เมื่อพูดถึงมัทฉะแล้วก็จะหมายถึงใบชาญี่ปุ่นชั้นดีที่บดละเอียด และเป็นชาที่ถูกนำไปใช้ในพิธีชงชาของประเทศญี่ปุ่น มีพิธีการ อุปกรณ์และวิธีชงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จากข้อมูลกระบวนการผลิตมัทฉะดังกล่าวมาแล้วนั้น จะเห็นได้ว่ามัทฉะเป็นใบชาบดผง ซึ่งเมื่อนำมาใช้ในพิธีชงชา ก็จะใช้ผงมัทฉะมาละลายได้เลย ดังนั้น การดื่มมัทฉะจึงเป็นการรับประทานใบชาทั้งใบ ต่างจากการดื่มชาแบบอื่นที่จะใช้ใบชาชงกับน้ำร้อนแล้วดื่มเฉพาะน้ำชา ส่วนกากชาก็จะถูกทิ้งไป ปัจจุบันนี้ได้มีการประยุกต์นำมัทฉะมาทำเป็นเครื่องดื่มโดยทำเป็นผงมัทฉะบรรจุอยู่ในซอง เวลาจะรับประทานให้เทผงมัทฉะลงในขวดน้ำเปล่าหรือน้ำแร่ จากนั้นก็เขย่าให้ผงละลายจนเข้าดี ก็จะได้ชาเขียวมัทฉะที่มีรสชาติและความหอมเฉพาะตัว รสชาติของมัทฉะจะเข้ม ขมเล็กน้อย(ขมแบบชา) มีกลิ่นหอมกว่าชาเขียวทั่วไป มีสีขุ่น ไม่ใสเหมือนชาเขียวที่ได้จากการชงแบบอื่น เช่น ชงโดยใช้ถุงชา และมีตะกอนอยู่บ้าง นับได้ว่าเป็นอีกวิถีทางหนึ่งในการดื่มชาเขียวที่ง่าย สะดวก ได้ประโยชน์ จากชาเขียวทั้งหมด เนื่องจาก เป็นการรับประทานใบชาทั้งใบ อีกทั้งมีกลิ่นที่หอม รสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
            คุณประโยชน์ของมัทฉะก็จะเหมือนใบชาทั่วไป ให้ประโยชน์แก่ร่างกายมากมายหลายประการ โดยมีสารสำคัญที่ทำให้เกิดประโยชน์ (Active Health Component) ที่เรียกว่า โพลีฟีนอล หรือเรียกกันทั่วไปว่า คาเทซิน ( Catechins) ชึ่ง Catechins นี้ จะมีปริมาณ 30-40 % ของส่วนที่เป็นของแข็งที่สามารถสกัดได้จากใบชาเขียวแห้ง และแอล-ธีอะนีน (L-theanine) ซึ่งส่งผลให้สมองผ่อนคลาย และเมื่อสมองผ่อนคลาย ความกังวลหายไป ก็จะทำให้เกิดสมาธิและสดชื่นขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นความแตกต่างของกาแฟกับชาที่มีคาเฟอีนเหมือนกัน (คือ กาแฟทำให้ตื่น แต่ไม่ผ่อนคลาย แต่ชาทำให้ตื่น รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย) ความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งของมัทฉะกับชาเขียวชนิดอื่นๆ ก็คือ เราได้กินทุกๆ ส่วนของชา (ไม่เพียงแต่น้ำชา) ซึ่งจะทำให้เราได้รับประโยชน์ของชาอย่างเต็มที่กว่า ไม่ว่าจะเป็น vitamin A, B, C, E, K, Niacin, folate, riboflavin, thiamin และก็รวมไปถึงพวกแร่ธาตุต่าง และพวก amino acids และเป็นที่รู้ๆ กันดีว่า ชาเขียวเป็น antioxidant ชั้นเลิศทีเดียว
            มัทฉะ ไม่เพียงแต่มีรสชาติและกลิ่นที่ติดใจหลายๆ คน แต่ มัทฉะ ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

My Instagram

Copyright © Ujizen Matcha.